จุดเช็คอินน่าน 2022 อัพเดทใหม่
เวลานี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฉันต้องมา### น่าน เที่ยวไหนดีละ!!!!
คงจะดีไม่น้อยถ้ามีที่เที่ยวธรรมชาติที่ไกลๆจากกรุงเทพฯ ที่จะค้างสักคืนหรือไปแบบเช้า-เย็นกลับก็สามารถทำได้สบาย ๆค่อยไปหาเช่ารถให้คนพื้นที่ คนท้องถิ่นที่ชำนาญรู้เรื่อง กิน ที่พัก แผนที่ท่องเที่ยวได้ดีกว่าเรา มันดีแน่นอน
หลงรักในความเป็นน่าน วันนี้ผมรวมไว้ให้แล้ว
จุดเช็คอินน่าน 2022 อัพเดท ล่าสุด
ไหน!!! วันหยุดสุดสัปดาห์ใคร ๆ ก็ห้ามใจตัวเองไม่ให้ออกไปเที่ยวธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ พักผ่อนสบาย ๆ ไม่ได้แน่นนอน แต่ด้วยระยะเวลาอันน้อยนิด หายใจแปปเดี่ยว ก็หมดเวลาหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ซะแล้ว จะออกไปท่องเที่ยวที่ไหนไกล ๆ ก็เป็นอันต้องยอมถอยรอวันหยุดยาว ๆ ตามเทศกาลต่าง ๆ อย่างเดียว
1.ถนนคนเดินจังหวัดน่าน
ถนนคนเดินน่าน เนิบๆ มีวันศุกร์ เสาร์ และวันอาทิตย์ ใกล้กับวัดภูมินทร์ เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าของคนพื้นที่ ชาวบ้านรวมตัวกันจัดกิจกรรม มีขนาดใหญ่ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย บางชิ้นมีเพียงชิ้นเดียวในโลก บางร้านก็ทำกับมือให้เห็นกันสดๆ มีทั้งของกินและของฝาก มีลานขันโตก นั่ง ฟังเพลงเพราะๆ กับดนตรีพื้นบ้านของชาว จังหวัดน่าน ระหว่างทางจะมีวัดให้ได้แวะเข้าไปไหว้พระและชื่นชมความงามของวัด นอกจากนี้ยังจะได้ชมการแสดงสดต่างๆ ตามรายทาง ซึ่งเป็นสีสันที่หาดูได้ยาก ส่วนบรรยากาศของถนนคนน่าน เสน่ห์อยู่ที่ถนนมีเอกลักษณ์ย้อนยุคแบบล้านนา ผสมผสานหลากหลายวัฒนธรรม และเป็นที่ตั้งของชุมชนดั้งเดิม เหมาะสำหรับเด็ก, ผู้ใหญ่, ครอบครัว, คู่รัก, เที่ยวน่านคนเดียว, เที่ยวเป็นกลุ่ม, เที่ยวเป็นคู่ กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เดินเลือกซื้อของฝากและของที่ระลึกต่างๆ
2. วัดพระธาตุเขาน้อย
ไม่ว่าใครที่ได้ไปสัมผัส น่าน ก็คงจะติดใจในกลิ่นอายของเมืองเล็กๆ แต่มีเสน่ห์น่าค้นหา และอดใจไม่ได้ที่จะกลับมาที่นี่อีกครั้ง อีกจุดเช็คอินหนึ่งในตัวเมืองน่าน จุดชมทะเลหมอก วิวที่สวยที่สุดของจังหวัดน่าน จะมองเห็นทั่วอำเภอเมืองน่าน ที่ วัดพระธาตุเขาน้อย พร้อมนมัสการองค์พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่านกันค่ะเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีเมืองน่าน ในยามเช้า ที่เราจะสามารถมองเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณสวยงามจริงๆ โดยมีภูเขาเป็นฉากหลังที่โอบล้อมเมืองอยู่อย่างสวยงามอลังการมากทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้น กลางคืน แสงไฟยามค่ำคืน ส่องประกาย วาววับ ก่อสวยไม่แพ้ตอนเช้าๆเลยละ ยืนยัน การเดินทางขึ้นมาบนวัดพระธาตุเขาน้อย ต้องอาศัยรถยนต์ส่วนตัว หรือการเช่ามอเตอร์ไซค์ขับขี่ขึ้นมาเท่านั้น เนื่องจากไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านมาบนยอดดอยเขาน้อย
3. ซุ้มลีลาวดี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน ภายในมี ซุ้มลีลาวดี (Frangipani Tree Arch) เป็นอุโมงค์ต้นลีลาวดีที่ตั้งอยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน แผ่ขยายกิ่งก้านสาขาโน้มเอียงเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นลีลาวดี เป็นมุมถ่ายภาพยอดฮิตอีกด้วย อยู่ติดกับ ถนนคนเดิน อยู่ตรงข้ามวัดภูมินทร์ ภายในจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุในประวัติศาสตร์ของน่านและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวพื้นเมืองภาคเหนือและชาวเขาเผ่าต่าง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือ งาช้างดำ ถือเป็นของคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดน่าน เป็นหนึ่งจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดเก็บความภาพประทับใจอีกด้วย
4. ปู่ม่าน ย่าม่าน กระซิบรักน่าน
มนต์รัก เมืองน่าน… ปู่ย่าม่าน หวานอมตะ @ วัดภูมินทร์
ภาพๆ นี้ สร้างอิทธิพลให้คนท้องถิ่นนำไปประยุกต์ออกแบบตกแต่งใหม่ให้เข้ากับสถานที่ สังเกตดูจากหลายๆ ร้านที่ออกแบบตกแต่งใหม่ในแนวเอาใจนักท่องเที่ยว เป็นวิธีส่งเสริมการตลาดของชาวเมืองน่านในยุคนี้ที่ใช้ต้อนรับแขกบ้านแขก เมืองให้ประทับใจเมื่อได้ไปเยือน คำว่า “ปู่ม่านย่าม่าน” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงบุคคลในภาพวาดอยู่มานานจนแก่เป็นปู่หรือเป็นย่า แต่จริง ๆ แล้วคือชายชาวพม่า องค์ประกอบของรูปภาพ สำหรับภาพจิตรกรรมชิ้นนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดด้านองค์ประกอบและอารมณ์ มีความเชื่อว่า ถ้าหากคู่รักที่มาบอกรักขอพรต่อหน้า ปู่ม่านย่าม่าน นอกจากจะทำให้มีความรักที่ยืนยาวแล้วจะทำให้มีความรักที่มั่นคงในชีวิตรักหรือชีวิตคู่อีกด้วย
5. ดอยเสมอดาว
“ดอยเสมอดาว” สถานที่ท่องเที่ยวกางเต็นท์พักแรม จุดเช็คอินยอดฮิต ปี 2022 ที่นอกจากจะเป็นจุดชมดาวยามค่ำคืน”ทางช้างเผือก”แล้ว ยังเป็นทั้งจุดชมแสงอาทิตย์ยามเช้า พร้อมทะเลหมอกตอนเช้า ตามไหลเขา สุดเส้นดอย ผ่านทิวเขา และจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน ที่สวยงามมาก ผู้คนมากมายต่างจ้องจะมาสัมผัสสักครั้งให้ได้ ทางอุทยาน จะเปิดให้เข้า พัก และท่องเที่ยว ในช่วง ตุลาคม ของทุกๆ ปี และมีที่พัก ของเอกชน หลายๆเจ้าคอยให้บริการที่พัก และ รถรับ-ส่งดอยเสมอกาว เช่น ม่อนเคียงดาว มีจุดชมวิว หลายจุดในพื้นที่สีเขียว ท่ามกลางแหล่งโอเอซิสผลิตออกซิเจน
6. ถนนลอยฟ้า ถนนหมายเลข3
ช่วงฤดูฝนราวต้น เดือน กรกฎาคม-สิงหาคม ธรรมชาติเริ่มก่อตัวแสดงอิริยาบถ ตีแผ่ความสวยงามออกมา เหล่า ชาวนักเดินทางสำรวจ หลายๆ พื้นที่ได้เริ่มเขียว อากาศเริ่มขยับมาอ้อมล้อมความชุ่มชื่น อันเป็นวงจร วัฏจักรตามปกติของช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวน่านหน้าฝน จวบจนใกล้จะเข้าสู่เดือนกันยายน ต้นข้าวเหล่านั้นก็กำลังเขียวขจีมองแล้วสบายตาสบายใจเป็นที่สุด และหนีไม่พ้น เส้นทางเที่ยวน่าน ถนนลอยฟ้า ถนนหมายเลข3น่าน เป็นเส้นทาง จากน่าน-สันติสุข-บ่อเกลือ –เข้าหมู่บ้านสะปัน ที่ใครมาแล้วต้องมา ซ้ำอีกเป็นที่แน่นอน
7. โค้งพับผ้า บ่อเกลือ-สะปัน
อีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมที่ไม่ซ้ำใครของน่าน จุดชมวิวนี้อยู่ระหว่างทางขึ้นเขาไปบ่อเกลือ –สะปัน ก่อนถึงอำเภอบ่อเกลือ มีเส้นทางคดเคี้ยว ยิ่งได้มองจากมุมสูง เพื่อนๆ จะได้เห็นว่าถนนเส้นนี้โค้งขนาดไหน ตรงนี้มีจุดพักรถให้เพื่อนๆจอดแวะถ่ายรูป คุณจะได้ภาพวิวแปลกตาเมื่อตามเส้นถนนจะโค้งเป็น ถนนพับผ้า มาตอนเช้าๆ จะมีทะเลหมอก แบบชัดเจนสวยเกินคำบรรยายเลยละ แต่ถ้าโค้งนานกว่านี้ คงมี อ้วกระหว่างทางแน่นอน และช่วงหน้าฝน หรือปลายฝนต้นหนาว เส้นทางนี้ ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาขับรถ ไม่ชำนาญอย่าขับเป็นอันขาด
8. บ่อต้มเกลือ สินเธาว์ 800ปี
บ่อต้มเกลือ สินเธาว์ อายุ800ปี บ่อหลวงจะทำการผลิตเกลือในช่วงเดือนตุลาคม-มิถุนายน เท่านั้น ในช่วงเดือน กรกฎาคม-กันยายน เป็นช่วงที่ฝนตกชุก ทำให้น้ำเกลือมีความเค็มลดลงไม่คุ้มค่ากับการผลิตเกลือ และยังเป็นอนุรักษ์ไม่ให้น้ำเกลือหมดเร็วด้วย มีชื่อเสียงด้านการผลิตเกลือภูเขาที่ไม่มีใครเหมือน เนื่องจากเป็นบ่อน้ำเกลือที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ท่ามกลางหุบเขาแห่งเดียวในโลก เราจะพาไปสัมผัสกับความอัศจรรย์แห่งนี้ และนอกจากนี้ ชาวบ้านได้รวมตัวกัน จัดตั้งกลุ่ม ทำผลิตภัณฑ์ จากเกลือ เช่น เกลือสปา สบุ่เกลือ ครีมทำจากเกลือ ฯลฯ เป็นของฝากที่หายาก และราคาจับต้องได้ทุกคน
9. หยุดเวลา คาเฟ่ สะปัน
อยากหยุดเวลาไว้ตรงนั้นจริงๆนะ ในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า เราไปนั่งจิบชากาแฟหอมๆ ในอากาศเย็นสบาย มองเห็นวิวทะเลหมอกจางๆ ท่ามกลางหุบเขา อันลึกลับ มีทุ่งนาเขียวขจี อยู่ตรงหน้า ยิ่งมอง ยิ่งชวนให้หลงไหล มีภูเขาสูงล้อมรอบเป็นฉากหลัง ที่หยุดเวลา คาเฟ่ หมู่บ้านสะปัน และยังมีจุดถ่ายรูปเช็คอินยอดฮิต 2022 ที่ยังได้กลิ่นอายเมืองน่านและธรรมชาติที่มีอยู่รอบตัว และนอกจากโซนคาเฟ่ ติดๆกันเลย ยังมีจุดเช็คอิน ระเบียงวัดสะปัน มองเห็น ทั้งหมู่บ้าน ยิ่งมองยิ่งอยากหยุดเวลา ไว้ ตรงนั้น นานๆ ยิ่งไปกว่านั้น วิวสวยทั้งกลางวันกลางคืน ใครพักอยู่ใกล้ๆ จะรออะไรอีกละ รีบไปสัมผัสกันก่อน
10. บ้านเวร บ่อเกลือ
หน้าฝน เป็นสัญญาณเตือนแห่งการล่าทะเลหมอก ชมภูเขาเขียว ๆ กลิ่นน้ำค้าง และสายน้ำใสไหลเย็น โดยแหล่งท่องเที่ยวที่แจ่มที่สุดในฤดูกาล นาขั้นบันได คือ เอกลักษณ์วัฒนธรรมการทำนาของชาวบ้าน บ้านเวร ในเขตอำเภอบ่อเกลือ ชาวบ้านปรับพื้นที่ตามไหล่เขาที่ว่างเปล่าให้เป็นแปลงนาบันไดหลายๆ ขั้น การลดหลั่นของแปลงนานี่เองที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวต่างถิ่นให้มาสัมผัสความงามตามธรรมชาติและหลายคนหลงใหลจนต้องกลับมาเยือนอีกครั้ง คุณจะได้ขลุกตัวอยู่กับธรรมชาติแบบใกล้ชิด พร้อมทัศนียภาพสุดตระการตา จึงได้เป็นไฮไลท์แห่งฤดูฝน ช่วงเดือนกรกฎา-สิงหาคม เป็นต้นมา ชาวนาในหลายๆ พื้นที่ได้เริ่มหว่านดำข้าวกล้าในนาอัน เป็นวิธีชีวิตตามปกติของเกษตรกร จวบจนใกล้จะเข้าสู่เดือนกันยายน ต้นข้าวเหล่านั้นก็กำลังเขียวขจีมองแล้วสบายตาสบายใจเป็นที่สุด
11. ดอยสกาด
วันนี้ ผม ขออาสาเป็นไกด์นำเที่ยวพาทุกคน ไปที่ดอยสกาด เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวไทยภูเขาเผ่าลัวะ ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตเรียบง่าย และด้วยความที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จัก ธรรมชาติที่นี่จึงบริสุทธิ์มาก เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนชาร์จพลังงานให้ร่างกาย ชีวิตแบเรียบง่าย ผม จะพาไปสัมผัสดอยสูงที่เงียบสงบแห่งนี้ ที่เที่ยวหน้าฝนที่แตกต่างกัน ทั้งป่าไม้ ภูเขา น้ำตก หรือแม้แต่ทุ่งนา เรามาดูกันว่าหน้าฝนแบบนี้มีอะไรดี ที่จะทำให้เราควรออกเดินทาง
ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ฤดูฝนกำลังจะเข้ามาแทนที่ธรรมชาติเริ่มกลายเป็นสีเขียวชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝนที่ตกลงมา ถึงแม้ฤดูฝนจะเป็นฤดูที่หลายๆ คนไม่อยากเที่ยว ไม่อยากเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า ธรรมชาติจะสวยงามที่สุดในช่วงหน้าฝน วันนี้ตัวแทนของคนน่าน ร้าน เช่ารถน่านพร้อมคนขับ เลยจะเอาจุดเช็คอินชุ่มฉ่ำในช่วงหน้าฝนมาฝากเพื่อนๆ “ดอยสกาด”
12. ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ อ.ปัว
เมื่อถึงฤดูน้ำมา น้ำเริ่มผุดขึ้นเรื่อยๆ ออกมาจากภูเขา ก่อเกิดลำธารสายเล็กๆ ไหลตกลงมาตามแนววังศิลาแลง ผ่านสายธารเหล่านี้ มองเห็นจากฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ แผ่กระจายแตกแขนงไปตามพื้นที่เขาที่ลาดเอียง สุดสายตาเป็นทุ่งนาที่ เขียว และเขียวมากม๊าก และขณะเดียวกันที่ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ ใต้เงาไม้อันร่มรื่น มีความสวยงาม น่าประทับใจเมื่อแรกเห็น ด้วยบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่สวยงามอลังการแบบนี้ จึงไม่แปลกใจเลยที่มีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาสัมผัสความชุ่มฉ่ำ ความสวยงาม และมาลิ้มรสชาติ ของพิชซ่าเห็ด ที่ขึ้นชื่อของที่นี้ โดยภายในสถานที่แห่งนั้นจะมีการเพาะพันธุ์เห็ด สายพันธุ์ เรียงรายอย่างสวยงามให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาเยี่ยมชม พร้อมกับเดินถ่ายรูปเป็นที่ระลึกได้อย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังสามารถมาเดินชมความงดงามของ วังศิลาแลง น้ำขุนปัวระหว่างรอ ของพิชซ่าเห็ด ขึ้นชื่อว่า รอ แล้วรออีก นานมาก
13. วัดภูเก็ต
ใครมาเที่ยวปัวช่วงหน้าฝน จะได้พบกับทุ่งนาสีเขียวกับวิวด้านหลังที่เป็นดอยภูคา และจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดอีกจุดก็คือ “วัดภูเก็ต” เป็นวัดที่อยู่ท่ามกลางหมู่บ้านชาวไทลื้อ ที่อพยพมาจากสิบสองปันนา วัดภูเก็ตมีสถาปัตยกรรมล้านนาร่วมสมัยและมีวัฒนธรรมประเพณีของชาวไทลื้อผสานอยู่ด้วย ผมยกให้ “วัดภูเก็ต” เป็นหนึ่งใน Highlight ที่ไม่ว่าใครก็ตามเมื่อมาถึง “เมืองปัว” แล้วไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง จุดเด่นของวัดนี้คือมีลานชมวิวที่สามารถมองได้กว้างถึง 180 องศา และยังมีที่พัก คอยให้บริการอยู่ด้วย
14. ฉำฉา คอฟฟี่คาเฟ่ อ.ปัว
ก้าว เข้าสู่ช่วงปี ฤดุกาลเที่ยวน่าน แบบใหม่ นี้เราก็มีคอนเทนต์ดีๆ มาฝากสายคาเฟ่กัน นั่นก็คือ ฉำฉา คอฟฟี่คาเฟ่ อ.ปัว เราได้คัดสรรมาให้ทุกคนอย่างดี ! รับรองว่าถ้าได้ไปเช็คอิน มีแต่ฟิน ฟิน ฟิน ! ร้านก็จะมีไฮไลท์แตกต่างกันออกไป ใครชอบแบบไหน สไตล์ไหนก็เลือกเช็คอินกันได้ตามใจชอบเลย เปลี่ยนบรรยากาศจิบกาแฟชิลๆ พร้อมมุมถ่ายรูปสุดชิคสไตล์ ถ่ายรูปติดขอบแม่น้ำ หรือมามาถ่ายรูปดอกไม้ ดอกไม้ พรุ้งฟริ้ง สีชมพู เป็น แลนด์มาร์คยอดนิยมของนักถ่ายรูปสายดอกไม้ หวานแหว่วไม่ควรพลาด สามารถหามุมถ่ายรูปได้อย่างจุใจ จะถ่ายมุมไหนก็ปัง เหมาะมากสำหรับใครที่อยากไปเที่ยว เหมือนอารมณ์ต่างประเทศ
สุดท้ายนี้ อย่ามัวแต่ห่อเหี่ยวกันไป สำหรับคนที่ทำงานหนัก จนไม่มีเวลาชาร์จแบต ให้ตัวเอง ลองมองหาที่เที่ยวธรรมชาติที่สงบไว้ พักผ่อนจริงๆ ก่อนที่จะไม่มีแรงเที่ยว อย่าทำงานจนเอาเงินไปรักษาตัวเอง มองหาที่นั่งโง่ๆ ใช้วันลาไม่เยอะ ก็เที่ยวได้สบาย อย่างน้อยให้เราตื่นขึ้นมา พร้อมสู้กับวันพรุ้งนี้เสมอ
